ชาวกรีกมีความเชื่อว่า "มนุษย์เป็นมาตรวัดสรรพสิ่ง"
ซึ่งความเชื่อนี้เป็นรากฐานทางวัฒนธรรมของชาวกรีก
เทพเจ้าของชาวกรีกจะมีรูปร่างอย่างมนุษย์
และไม่มีความเชื่อเกี่ยวกับชีวิตหลังความตายเหมือนชาวอียิปต์
ดังนั้น จึงไม่มีสุสานหรือพิธีฝังศพที่ซับซ้อนวิจิตรเหมือนกับชาวอียิปต์
จิตรกรรมของกรีก ที่รู้จักกันดีก็มีแต่ภาพวาดระบายสีตกแต่งผิวแจกันเท่านั้น
ที่ชาวกรีกนิยมทำมาจนถึงพุทธศตวรรษที่ 1
เป็นภาพที่มีรูปร่างที่ถูกตัดทอนรูปจนใกล้เคียงกับรูปเรขาคณิต
มีความเรียบง่ายและคมชัด สีที่ใช้ได้แก่ สีดิน คือเอาสีดำอมน้ำตาลผสมบาง ๆ ระบายสี
เป็นภาพบนพื้นผิวแจกันที่เป็นดินสีน้ำล้อมแดงแต่บางทีก็มีสีขาว และสีอื่น ๆ ร่วมด้วย
เทคนิคการใช้รูปร่างสีดำ ระบายพื้นหลังเป็นสีแดงนี้ เรียกว่า "จิตรกรรมแบบรูปตัวดำ"
และทำกันเรื่อยมาจนถึงสมัยพุทธศตวรรษที่ 1 มีรูปแบบใหม่ขึ้นมา คือ "จิตรกรรมแบบรูปดัวแดง"
โดยใช้สีดำอมน้ำตาลเป็นพื้นหลังภาพ ตัวรูปเป็นสีส้มแดง หรือสีน้ำตาลไม้ ตามสีดินของพื้นแจกัน
ประติมากรรมของกรีก ส่วนมากเป็นเรื่องศาสนา ซึ่งสร้างถวายเทพเจ้าต่าง ๆ วัสดุที่นิยใช้สร้างงาน
ได้แก่ ทองแดง และดินเผา ในสมัยต่อมานิยมสร้างจากสำริด และหินอ่อนเพิ่มขึ้น
ในสมัยแรก ๆ รูปทรงยังมีลักษณะคล้ายรูปเรขาคณิตอยู่ ต่อมาในสมัยอาร์คาอิก (200 ปีก่อน พ.ศ.)
เริ่มมีลักษณะคล้ายกับมนุษย์มากขึ้นเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเทพเจ้า รูปนักกีฬา รูปวีรบุรุษ รูปสัตว์ต่าง ๆ
ในยุคหลัง ๆ รูปทรงจะมีความเป็นมนุษย์มากขึ้น แสดงท่าทางการเคลื่อนไหวที่สง่างาม
มีการขัดถูผิวหินให้เรียบดูคล้ายผิวมนุษย์ มีลีลาที่เป็นไปตามธรรมชาติมากขึ้น
ทำให้ประติมากรรมกรีกจัดเป็นยุคคลาสสิค ที่ให้ความรู้สึกในความงาม
ที่เป็นความจริงตามธรรมชาตินั่นเอง
สถาปัตยกรรมกรีก ใช้ระบบโครงสร้างแบบเสาและคาน เช่นเดียวกับอียิปต์
มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า จากฐานอาคารซึ่งยกเป็นชั้น ๆ ก็จะเป็นฝาผนังโดยปราศจากหน้าต่าง
ซึ่งจะกั้นเป็นห้องต่าง ๆ 1 - 3 ห้อง ปกติสถาปนิกจะสร้างเสารายล้อมรอบอาคารหรือสนามด้วย
มีการสลับช่วงเสากัน อย่างมีจังหวะระหว่างเสากับช่องว่างระหว่างเสา
ทำให้พื้นภายนอกรอบ ๆ วิหารมีความสว่างและมีรูปทรงเปิดมากกว่าสถาปัตยกรรมอียิปต์
และมีขนาดเหมาะสม ไม่ใหญ่โตจนเกินไป มีรูปทรงเรียบง่าย
สถาปัตยกรรมกรีกแบบพื้นฐาน 2 ใน 3 แบบ เกิดในสมัยอาร์คาอิก คือ แบบดอริก และแบบไอโอนิก
ซึ่งแบบหลังพบแพร่หลายทั่วไปในแถบเอเชียไมเนอร์ เสาหล่านี้แต่ละต้นจะมีคานพาดหัวเสาถึงกันหมด
ในสมัยต่อมา เกิดสถาปัตยกรรมอีแบบหนึ่งคือ แบบโครินเธียน หัวเสาจะมีลายรูปใบไม้
ชาวกรีกนิยมสร้างอาคารโดยใช้สถาปัตยกรรมทั้งสามชนิดนี้ผสมผสานกัน
โดยมีการตกแต่งประดับประดาด้วยการแกะสลักลวดลายประกอบ บางทีก็แกะสลักรูปคนประกอบไปด้วย
นอกจากนี้ยังมีการใช้สีระบายตกแต่งโดยสีน้ำเงินได้รับความนิยมใช้ระบายฉากหลังรูปลวดลายที่หน้าจั่ว
และสีแดงใช้ระบายฉากหลังสำหรับประติมากรรมที่หัวเสาและลายคิ้วคาน
ภาพ Bronze Sculpture, thought to be either Poseidon or Zeus, c. 460 B.C,National Archaeological Museum, Athens. ภาพโดย Ricardo André Frantz (User:Tetraktys) วิกิพีเดีย |
ภาพ Interior (tondo) of a red figure kylix, depicting Herakles and Athena, by Phoinix (potter) and Douris (painter), circa 480-470 BC, |
ภาพ The Erechtheion on the Acropolis of Athens, late 5th century BC. |
ภาพ The theatre of Epidauros, 4th century BC. ภาพโดย Author Fingalo วิกิพีเดีย |
No comments:
Post a Comment
shared idea and inspiration ☂
i♥graphic design :)
pbenzbenz.blogspot.com